เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่บริเวณหน้าตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา นายนิพนธ์ บุญญามณี พร้อมด้วย ดร.พีรยศ ราฮิมมูลา ส.ส.ระบบสัดส่วน และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ อ.เบตงเพื่อช่วยลูกพรรคหาเสียง ในเขตเทศบาลเมืองเบตง โดยมี นายณรงค์ ดูดิง ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ในเขต 3 รวมทั้งผู้สนับสนุนพรรค เดินทางมารอต้อนรับ หลังจากที่นายนิพนธ์ ฯ และคณะ มาถึง ได้ขึ้น รถยนต์ ซึ่งทางพรรคประชาธิปัตย์ จัดเตรียมมา เพื่อเข้าร่วมในขบวนรถแห่ของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่ง นายนิพนธ์ ฯ และคณะ พร้อมด้วยผู้สมัคร สส.ยะลา ได้ขึ้นรถ และตระเวนไปภายในเขตเทศบาลเมืองเบตง พร้อมใช้เครื่องเสียงพูดพบปะทักทายขอคะแนนเสียง ให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งการเดินทางลงพื้นที่ครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากชาวเบตงเป็นอย่างมาก โดยตลอดเส้นทาง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร คอยอำนวยความสะดวก
นายนิพนธ์ บุญญามณี เปิดเผยถึงความมั่นใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์จะได้รับการเลือกตั้ง โดยประการที่หนึ่ง ส.ส.เดิม เป็นส.ส.ที่เอาใจใส่พี่น้องประชาชน ทำงานร่วมกับประชาชนมาโดยตลอด เชื่อมั่นว่า ส.ส.เก่าทุกคนจะสามารถรักษาที่นั่ง ของตนเองได้ ประการที่สอง ทางพรรคฯได้คัดเลือกผู้สมัครคนใหม่ลงสมัคร ส.ส. ซึ่ง ส.ส.คนใหม่เป็นคนที่ประชาชนรู้จักดี คุ่นหน้าคุ้นตาประกอบกับมีประสบการณ์ ลงมาพบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่อยู่เสมอและ คิดเหมือนคนภาคใต้จังหวัดอื่น คือ ไว้วางใจท่านนายกอภิสิทธิ์ ต้องการให้นายกอภิสิทธิ์ เป็นนายกต่อไป เพราะมีผลงานในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นที่พึงพอใจของประชาชนในพื้นที่ เพราะฉะนั้น โดยส่วนตัวตนเองมีความมั่นใจ ว่า ประชาชนจะสนับสนุนผู้สมัคร ของพรรค ปชป.ทุกเขตเลือกตั้งใน 3 จชต.ทั้ง 11เขต 11 คน
ขณะที่นายณรงค์ ดูดิง ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนจะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน ตนเองไม่ห่วงแต่อย่างใด ส่วนถ้าหากทางพรรค ปชป.ได้ที่นั่งเพิ่มขึ้น และมีโอกาสกลับมาเป็นรัฐบาล ตนเองก็ตั้งใจไว้ว่าถึงเวลาที่จะต้องมีคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นรัฐมนตรี อีกทั้ง หากทางพรรค ปชป.ได้เข้ามาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง คิดว่า พรรค ปชป.ผ่านประสบการณ์ มา 2 ปี เศษ ไม่ต้องมาศึกษาใหม่ งานเดิมที่ทำอยู่เป็นที่ประจักษ์ของประชาชนแล้ว สิ่งที่จะต้องทำต่อ คือ มุ่งมั่นความมีประสิทธิภาพของข้าราชการ ซึ่ง 2 ปี ที่ผ่านมาได้ออกกฎหมายจัดตั้ง ศอ.บต. ตั้งองค์กรและมีการทำงาน แล้ว พอเลือกตั้งมาก็จะต้องทำต่อ เป็นการบูรณาการจากทุกฝ่ายภายใต้องค์กร ศอ.บต. โดยมีประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม มีการวางนโยบายต่างๆ การจัดตั้งงบประมาณ และการตรวจสอบ โดยเราใช้ยุทธศาสตร์ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา และทำงานจริงๆ ที่ผ่านมาทางรัฐบาลได้ทุ่มเทงบประมาณเกือบ 2 หมื่นล้านบาทเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต รายได้ ของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งประชาชนก็ได้เห็นการทำงานที่ผ่านมาแล้ว นอกจากนั้น จะมีการดำเนินการเรื่องการอำนวยความยุติธรรม ให้โอกาสประชาชน ในพื้นที่ ได้ปฎิบัติศาสนกิจอย่างเสรีภาพ ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาล
ที่มา:77.nationchannel
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น