"บังยี" นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานประชุมสภากรรมการสมาคมฟุตบอลฯ ที่ห้องประชุมสมาคม เมื่อวันที่ 27 มกราคม โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง
หลังประชุมนายวรวีร์ มอบหมายให้นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมแถลงต่อสื่อมวลชนว่า สืบเนื่องจากกรณีที่นักเตะและกองเชียร์สโมสรนครปฐม เอฟซี ก่อเหตุวิวาทเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2553 เป็นผลให้คณะกรรมการพิจารณาวินัยการแข่งขันตัดสินห้ามให้สโมสรนครปฐม เอฟซี ส่งทีมเข้าแข่งขันฟุตบอลอาชีพเป็นระยะเวลา 2 ปี และปรับเงิน 1.5 แสนบาท รวมทั้งปรับเงินผู้เล่นที่ก่อเหตุวิวาท 1 หมื่นบาท และดำเนินคดีตามกฎหมาย ทางสโมสรได้ยื่นอุทธรณ์ขอลดโทษห้ามแข่งขันจาก 2 ปี เหลือ 1 ปี โดยไม่ได้แก้ต่างความผิด ซึ่งสภามีมติไม่รับการอุทธรณ์ เนื่องจากทางสโมสรยังไม่ได้จ่ายค่าปรับตามข้อตกลง ทำให้นครปฐม เอฟซีไม่สามารถลงแข่งขันในฤดูกาล 2012 ได้
ด้านกรณีสโมสร บุรีรัมย์ เอฟซี จะโอนหุ้นและสิทธิการแข่งขันให้บริษัทสโมสรฟุตบอลสงขลา จำกัด ได้หรือไม่นั้น ตามหลักกฎหมายและกฎการแข่งขันแล้ว สโมสรบุรีรัมย์ เอฟซีสามารถโอนหุ้นให้สโมสรฟุตบอลสงขลา จำกัดได้ แต่สิทธิการแข่งขันไม่สามารถโอนได้ ถือว่าเป็นการขัดกับกฎระเบียบของการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม สมาคมฟุตบอลฯ และบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ซึ่งมีอำนาจในการให้สิทธิการแข่งขันจะพิจารณาเป็นรายกรณี
"บิ๊ก เปี๊ยก" กล่าวเสริมว่า กรณีถ้าหากบุรีรัมย์เอฟซี จะส่งทีมแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล2012 จะต้องไม่ใช่สนามเหย้าเดียวกับบุรีรัมย์ยูไนเต็ด หรือถ้าหากไม่ส่งทีมเข้าแข่งขัน ฝ่ายจัดการแข่งขันจะพิจารณาให้สิทธิ ปตท.ระยองทีมอันดับ 4 ของดิวิชั่น 1 เลื่อนชั้นขึ้นมาไทยพรีเมียร์ลีก ส่วนกรณีสโมสรฟุตบอลศรีสะเกษจำกัด จะขอย้ายสนามเหย้าไปที่สนามกีฬากลางจังหวัดอุบลราชธานีนั้น ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี สามารถ ย้ายสนามเหย้าไปที่สนามกีฬากลางจ.อุบลราชธานี ได้ แต่ต้องเปลี่ยนชื่อสโมสรซึ่ง ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด กล่าวเสริมว่า ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ทำเรื่องขอเปลี่ยนชื่อสโมสรเป็น"อีสาน ยูไนเต็ด"
ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี ประธานสโมสรสงขลา เอฟซี กล่าวว่า "การบริหารงานของสมาคมฟุตบอลมี 2 มาตรฐาน ไม่มีความยุติธรรมเรามีความชอบธรรมทุกอย่างในการโอนสิทธิแต่กลับถูกสมาคม ตัดสินแบบไม่เป็นธรรมผู้บริหารสมาคมนำการเมืองมาปะปนกับกีฬาทำไมทีทีเอ็มจึง ไปรวมกับเชียงใหม่ได้ และทำไมศรีสะเกษจึงย้ายไปอยู่กับอุบลฯได้ เป็นเพราะตนและนายเนวินอยู่ฝ่ายค้าน แต่ทั้งสองทีมอยู่ฝ่ายรัฐบาลใช่หรือไม่"
ขณะที่นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ พีอีเอ กล่าวว่า "เป็นเวรกรรมของฟุตบอลไทย ได้คุยกับคุณนิพนธ์แล้ว เรื่องนี้มีการเมืองมาแทรก ผมได้ข้อสรุปกับคุณนิพนธ์ว่าต้องรักษาสิทธิของตัวเองตามประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ ต้องทำให้เป็นกรณีตัวอย่างผมถามไปยังสมาคมว่า กรณีทีทีเอ็มไปเชียงใหม่ทำไมทำได้ กรณีศรีสะเกษไปอุบลฯ ทำไมทำได้แต่บุรีรัมย์ขายหุ้นอย่างถูกต้องตามกฎหมายให้สงขลา ทำไมทำไม่ได้ ก็ต้องไปว่ากันตามกระบวนการยุติธรรม"
มติชน ฉบับวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น